Bannner_News
You are here:Home/ข่าวสาร/สิ่งแวดล้อม/ทีพีไอ โพลีน กับคุณภาพความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม/ทีพีไอ โพลีน กับคุณภาพความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม

บริษัทตระหนักเสมอว่าความสำเร็จและการเติบโตที่ยั่งยืนขององค์กร ย่อมมาจากทั้งการเติบโตจากผลการดำเนินงาน รวมถึงการเป็นที่ยอมรับ และได้รับความไว้วางใจจากชุมชนและสังคม โดยบริษัทได้นำระบบบริหารงานตามมาตรฐานต่างๆ มาประยุกต์ใช้และยึดถือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด อันได้แก่  ระบบบริหารคุณภาพ (ISO 9001: 2008 และ API  Specification Q1) ระบบบริหารด้านสิ่งแวดล้อม (ISO 14001: 2004)  ระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (มอก.18001: 2011 และ OHSAS 18001: 2007)  รวมทั้งระบบบริหารคุณภาพว่าด้วยความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบ ตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025: 2005 โดยบริษัทได้นำมาตรฐานต่างๆ มาประยุกต์ใช้อย่างผสมผสานแบบบูรณาการอย่างสอดคล้องและเหมาะสม เพื่อให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างสูงสุด

การบริหารจัดการด้านคุณภาพ  บริษัทในเครือทีพีไอโพลีน มุ่งมั่นในการผลิต จำหน่าย ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าสูงสุด มีการปรับปรุงประสิทธิผลของระบบคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทในเครือทีพีไอโพลีน ได้รับการวิจัยและพัฒนาภายใต้การควบคุมด้วยระบบบริหารคุณภาพ  ISO 9001: 2008, API Specification Q1, API Specification 10A  และ ISO/IEC 17025: 2005 รวมทั้งมีการจัดทำและทบทวนวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ด้านคุณภาพของบริษัทปีละ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย

การบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย  บริษัทในเครือทีพีไอโพลีน ให้ความสำคัญต่อระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงและป้องกันอันตรายที่มีอยู่ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการบาดเจ็บและเจ็บป่วย อันเนื่องมาจากการทำงานเพื่อให้พนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้องมีสุขภาพที่ดี และมีความปลอดภัยในการทำงานทุกด้านอย่างต่อเนื่อง

ในปี 2558 บริษัทได้ร่วมมือกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดโครงการสถานประกอบการปลอดภัยให้ความรู้พนักงาน สถานศึกษา และประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมย้ำเป้าหมาย Zero accident ตลอดปี 2558 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใยผู้ใช้แรงงาน ทางบริษัทจึงให้ความสำคัญและนำนโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของบริษัท มาใช้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ที่ผ่านมาบริษัทได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานมาโดยตลอด มีการพัฒนาระบบความปลอดภัยในการทำงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดสถิติอุบัติเหตุให้น้อยที่สุดหรือเป็นศูนย์ (Zero Accident) โดยได้เข้าร่วมโครงการสถานประกอบการปลอดภัยเฉลิมพระเกียรติฯ และได้ดำเนินกิจกรรมตามแนวทางและกรอบเพื่อการป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงานตามที่กำหนดไว้ ทำให้บริษัท ได้รับประกาศเกียรติคุณโครงการสถานประกอบการปลอดภัย เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจัดโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2558

อนึ่ง บริษัทได้นำระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยตามมาตรฐาน OHSAS 18001: 2007และ มอก. 18001 : 2011 มาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม รวมถึงการให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัยของประเทศไทย เพื่อให้สามารถลดและควบคุมความเสี่ยงตั้งแต่ระดับปานกลางขึ้นไป  โดยถือว่าระบบการจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเป็นหน้าที่รับผิดชอบของผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ โดยบริษัทได้ให้การสนับสนุนทรัพยากรในทุกด้าน ทั้งในเรื่องบุคลากร เวลา งบประมาณ และการฝึกอบรม อย่างเพียงพอและเหมาะสม รวมทั้งมีการจัดทำและทบทวนวัตถุประสงค์ เป้าหมาย เพื่อควบคุมประเด็นความเสี่ยงจากกิจกรรมของบริษัทปีละ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย และนำผลการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยไปประกอบการพิจารณาในการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงาน

นอกจากนี้ บริษัทได้ดำเนินการตรวจเฝ้าระวังด้านอาชีวอนามัยให้กับพนักงาน ได้แก่ การตรวจสมรรถภาพปอด และการตรวจสมรรถภาพการได้ยิน

ด้านสุขอนามัยของชุมชนและพนักงาน  บริษัทมีความตระหนักและห่วงใยต่อสุขอนามัยของชุมชนเป็นอย่างยิ่ง โดยได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการชุมชนอย่างต่อเนื่องตลอดมา  ในส่วนของพนักงาน บริษัทมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล (OPD) ให้กับพนักงาน บิดา มารดา คู่สมรส และบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย  การจัดตรวจสุขภาพประจำปีให้กับพนักงานทุกคน  การจัดให้สถานพยาบาลจากภายนอกเข้ามาตรวจสุขภาพ การฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ให้กับพนักงานและครอบครัว

การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม  บริษัทในเครือมทีพีไอโพลีนมีความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งการปรับปรุงและรักษาสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง ตลอดจนการป้องกันมลภาวะในการทำงานทุกๆ ด้าน โดยได้มีการนำระบบมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม  ISO 14001: 2004 มาประยุกต์ใช้ตามมาตรฐานสากล มีการให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามข้อบังคับ กฎหมายและข้อกำหนดอื่นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม  มีการควบคุมและลดปริมาณฝุ่น  รวมทั้งคุณภาพของน้ำทิ้งจากกระบวนการผลิต  นอกจากนี้บริษัทยังมีนโยบายประหยัดและอนุรักษ์การใช้พลังงาน ควบคุมและจัดการปริมาณของเสียอย่างถูกต้อง  รวมถึงจัดให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ   มีการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มที่ โดยให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนที่ใกล้เคียง  มีการสนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืนโดยการปลูกป่าทดแทนและฟื้นฟูสภาพพื้นที่โครงการทำเหมืองหลังจากทำเหมืองแล้ว  การทบทวนจุดประสงค์และเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งจัดให้มีการให้ความรู้ และฝึกอบรมเรื่องสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงานทุกระดับตามความเหมาะสม เพื่อให้พนักงานตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม

กลุ่มทีพีไอโพลีน ได้ดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากความร้อนทิ้งในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์  เพื่อลดการซื้อ และลดการผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยโครงการดังกล่าวไม่มีการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

มาตรฐานห้องปฏิบัติการ  โรงงานปูนซีเมนต์ของบริษัทได้ผ่านการประเมินความสามารถของห้องปฏิบัติการ ภายใต้ระบบการรับรองห้องปฏิบัติการของสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 : 2005  และ  มอก.17025 : 2548 ข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยความสามารถของห้องปฏิบัติการทดสอบ นอกจากนี้ บริษัทได้ขึ้นทะเบียนเป็นห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนด้านสิ่งแวดล้อมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม หมายเลขทะเบียน ร-097

ฉลากคาร์บอน (Carbon Label) “สัญลักษณ์แห่งกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”  บริษัทได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนจากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจกและสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ประเภทพิจารณากระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ เป็นบริษัทแรกของประเทศไทย และบริษัทแรกของทวีปเอเชีย เมื่อปี 2551 ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านเกณฑ์การประเมินฉลากคาร์บอนจากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก มากถึง 22 ชนิด ปัจจุบันบริษัทได้ติดฉลากคาร์บอนแล้ว 9 ชนิด  ทั้งนี้บริษัท ยังมีความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะพัฒนากระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

การบริหารจัดการด้านพลังงาน  บริษัทได้เข้าร่วมโครงการเตรียมความพร้อมด้านระบบการจัดการพลังงานสำหรับโรงงานควบคุม  ร่วมกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ.2538 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2550) สำหรับโรงงานควบคุมและอาคารควบคุม

การบริหารจัดการด้านเพิ่มผลผลิต   บริษัทนำระบบการบำรุงรักษาแบบทวีผลที่ทุกคนมีส่วนร่วม (TPM : Total Productive Management) มาประยุกต์ใช้ โดยมุ่งเน้นปลูกฝังจิตสำนึกให้บุคลากรมีส่วนร่วมต่อการขับเคลื่อนพัฒนาองค์กร  เปิดโอกาสให้แก่พนักงานทุกระดับได้มีส่วนร่วม โดยผ่านการดำเนินกิจกรรมกลุ่มย่อย  (SGA : Small Group Activity) จัดทำ OPL : One Point  Lesson  เพื่อสอนงานกันภายในส่วนงาน จัดทำมาตรฐานการตรวจเช็คเครื่องจักรด้วยการใช้ Visual Control  ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานโดยจัดโครงการรางวัล  Improvement  Sheet  รวมทั้งการทำกิจกรรมกลุ่ม (Project Team) เพื่อแก้ไขปัญหางาน ในการวิเคราะห์สาเหตุปัญหา และทำการแก้ไขปรับปรุง  เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่สูญเสีย (Losses) ตลอดกระบวนการผลิต  อีกทั้งการนำระบบ Total Productive Managment (TPM) มาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิตตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการซ่อมบำรุงตามแผนงาน  การควบคุมคุณภาพตลอดกระบวนการ  การให้บริการลูกค้า รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ การพัฒนาระบบงานของหน่วยงานสนับสนุน (OI : Office Improvement) ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรโดยการอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้วยการสอนงานผ่าน Work Flow Analysis เพื่อสู่ความเป็นเลิศ ทั้งในเชิงปฏิบัติการและการบริหารจัดการ

ความรับผิดชอบต่อสังคม  (Corporate Social Responsibility)  บริษัทได้นำระบบมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคม (ISO 26000) มาประยุกต์ใช้ในองค์กรครอบคลุมในทุกประเด็นหลัก  นอกจากนี้บริษัทได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมรวมทั้งสิ้น 237 ข้อ  และปฏิบัติสอดคล้องกับกฎหมายจำนวน  321 ฉบับ โดยบริษัทได้ดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนโดยมุ่งเน้นให้ชุมชนพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนในทุกด้าน ทั้งในด้านการศึกษาและวัฒนธรรม  เศรษฐกิจชุมชน  สุขภาพชุมชน  และสิ่งแวดล้อม  เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนสู่การพัฒนาแบบยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศด้วยความมั่นคงยั่งยืนอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2558 บริษัทได้รับรางวัลมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่อสังคม : Standard for Corporate Social Responsibility, Department of Industrial Works : CSR-DIW ในส่วนของโรงงานที่สระบุรี และระยอง ซึ่งจัดโดย กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และนอกจากนี้ยังได้รับรางวัล Thailand Coal Awards 2015 ประเภท Corporate Social Responsibility : CSR จากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่  25 มิถุนายน 2558  

มาตรฐานระบบการจัดการแบบบูรณาการ (Integrated Management System)  โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกของบริษัทเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรายแรกในประเทศไทย และเป็นโรงงานลำดับที่ 6 ของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน IMS (Integrated Management System) หรือ มาตรฐานระบบการจัดการแบบบูรณาการ จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ

 “ ทีพีไอ โพลีน เราสร้างอนาคต ด้วยภูมิปัญญาที่น่าเชื่อถือ พร้อมคุณธรรม และจิตสำนึกต่อสังคม”